วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

คุยอย่างไรไม่ให้ทะเลาะกัน

บทความดีๆน่าอ่าน คุยอย่างไร ไม่ให้ทะเลาะกัน

ให้หรือรับข้อมูล จงเปิดใจต่อสิ่งที่ได้รับจากคู่ของคุณ คุณต้องยินดีที่จะทดสอบหรือถูกทดสอบคุณไม่ต้องพูดทุกอย่างที่คุณคิด แต่ทุกอย่างที่คุณพูดออกไปต้องเที่ยวตรง ถ้าคู่ของคุณถามว่าคุณไม่สบายใจหรือเปล่า และถ้าคุณไม่สบายใจหรือโกรธ ก็ต้องพูดออกไปว่า “ใช่” มันสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องพูดความจริง

ชี้ชัดข้อมูลและอารมณ์ หลังจากได้รับข้อมูลจากคู่ของคุณแล้ว แยกแยะว่าสิ่งที่คุณกำลังได้ยิน คือสิ่งที่คู่ของคุณพูดออกมาจริงหรือเปล่า คุณต้องทวนว่า “สิ่งที่ฉันได้ยินจากคุณก็คือ…” จากนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจในความรู้สึกของเขาหรือเธอ คุณก็อาจพูดบางอย่าง เช่น “ความรู้สึกที่ฉันได้จากคุณก็คือความขุ่นข้องใจ ความโกรธ และเจ็บปวด” เพื่อให้อีกฝ่ายตอบรับ หรือปฏิเสธในสิ่งที่ตรงกับความรู้สึกของตัวเอง
อยู่กับปัจจุบัน จดจ่อกับเรื่องที่กำลังพูดกันอยู่อย่าได้ขุดคุ้ยเรื่องในอดีตขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ประเด็นทั้งหมดเบี่ยงบนไป

อย่าเดินหนี อย่าได้เดินหนีไปก่อนที่การพูดคุยจะจบสิ้นลง เพื่อไม่ให้มันยืดเยื้อมากนัก คุณสามารถต่อรองจำกัดเวลาก่อนหน้าได้ เพื่อที่ทั้งสองจะได้รู้ว่าการสนทนาจะยาวนานแค่ไหน
 
ที่มาจาก http://sakid.com/2010/08/15/25084/

ความรัก

บทความดีๆ คนบางคนเอา “ความรัก” เป็นเครื่องต่อรองการใช้ชีวิต…

คน บางคนเอา “ความรัก” เป็นเครื่องต่อรองการใช้ชีวิต หมดความรัก ชีวิตก็หมดความหมาย
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ใช้ชีวิตมาได้ ดิบดี ไม่มีปัญหาอะไร พอเจอความรัก ก็หน่วงเหนี่ยวมาเป็นสมบัติของตัวเอง มอบชีวิตทั้งชีวิต ให้ตกอยู่ในความดูแลของความรัก
และเมื่อวันหนึ่งที่เขา เดินจากไป ก็กลับมองเห็นว่า . . . เขาเอาความรักนั้นไปด้วย เหมือนเขาเอาชีวิตเราไปด้วย แล้วร่างกายของเราจะอยู่อย่างไร . . . เมื่อ โดนขโมยวิญญาณและชีวิตไป
เธอคงลืม ไปแล้วว่า . . . เธอได้สร้างความรักขึ้นมาด้วยตัวเธอเอง เขา ไม่ได้เป็นคนเอาความรักมา ความรักของเขาก็คือของเขา ของเธอก็คือของเธอ เมื่อ ความรักของเขาหมด แล้วเขาเดินกลับไป
ทำไมของเธอต้องหมดไปพร้อมกับ เขา มันไม่ได้เริ่มขึ้นมา พร้อมกันด้วยซ้ำ ไม่ได้สร้างขึ้นมาจาก หัวใจเดียวกันสักหน่อย หัวใจหนึ่งหายไป . . . แต่เธอก็ยังหายใจอยู่ และ ความรักของเธอ มันก็ยังอยู่กับหัวใจเธอ
ถ้า เธอใช้ “ความรัก” เป็นข้ออ้าง ทำไมเธอไม่ใช้ความรักที่อยู่ในใจเธอ ดูแลชีวิตเธอล่ะ มันยังมีความหมายต่อใครอีกหลายคน
เลิกมองตัวเองว่า . . .เป็นผู้ถูกดูแล แต่มองกลับไปว่า . . . เธอต้องมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลอะไรบ้าง เธอจะรู้ว่า . . . ชีวิตเธอมีความหมายแค่ไหน และไม่มีใครเอาความรักของเธอไปจากใจเธอได้ ถ้าเธอโยนความหมายของชีวิตให้ความรัก เธอก็ต้องรู้ ด้วยว่า . . . ความรักแบบไหนที่จะทำให้ชีวิตเธอมีความหมาย

 ขอขอบคุณเนื้อหาจาก http://sakid.com/2010/07/25/24662/

จัดอันดับปลาน้ำจืด

อันดับที่ 1

ปลา กระเบนราหู(น้ำจืด)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Himantura chaophraya

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่กลอง และโขง

ขนาดเมื่อโตเต็มวัย ประมาณ 500ซม.(เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดจาน...)

น้ำหนัก ประมาณ600กก.
อันดับที่ 2

ปลา ฉลามปากเป็ดจีน Chinese paddlefish

(ผมคิดว่าน่าจะเป็นปลาน้ำจืดที่หายากที่สุดในโลก)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Psephurus gladius

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง

ขนาดเมื่อโตเต็มวัย ประมาณ 700ซม. น้ำหนัก ประมาณ300กก.(สูญพันธุ์ไปแล้ว)

อันดับที่ 3

ปลา เวลส์ แคทฟิช Wels Catfish

ชื่อวิทยาศาสตร์ Silurus glanis

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่ในทวีปยุโรป

ขนาดเมื่อโตเต็มวัย ประมาณ500ซม. น้ำหนัก ประมาณ306กก.

อันดับที่ 4

ปลา บึก

ชื่อวิทยาศาสตร์ Pangasianodon gigas

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำโขง

ขนาดเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 330ซม. น้ำหนักประมาณ300กก.

อันดับที่ 5

ปลา เทพา

ชื่อวิทยาศาสตร์ Pangasius sanitwongsei

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ลุ่มแม่น้ำป่าสัก ลุ่มแม่น้ำโขง

ขนาดเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 300ซม. น้ำหนัก ประมาณ300กก.

อันดับที่ 6

ปลา กระโห้

ชื่อวิทยาศาสตร์ Catiocarpio siamensis

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำแม่กรอง เจ้าพระยา แม่น้ำโขง



ขนาดเมื่อโตเต็มวัย 300ซม. น้ำหนัก 300กก.

อันดับที่ 7*

ปลา อราไพมา หรือ ปลาช่อนอเมซอน หรือที่คนพื้นเมืองเรียกว่า Pirarucu

ชื่อวิทยาศาสตร์ Arapaima gigas

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำอเมซอน

ขนาดเมื่อโตเต็มวัย ประมาณ 450ซม. น้ำหนัก ประมาณ 200กก.

อันดับที่ 8

ปลา พิไรบ้า

ชื่อวิทยาศาสตร์ Brachyplatystoma filamentosum

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำอเมซอน และใกล้เคียง
อันดับที่ 9

ปลา กะพงแม่น้ำไนล์ หรือ Nile Perch



ถ้าชอบก็บวกให้กันบ้างนะครับ







ชื่อวิทยาศาสตร์ Lates niloticus

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำไนล์

ขนาดเมื่อโตเต็มวัย ประมาณ 200ซม. น้ำหนัก 200กก.



อันดับที่ 10

ปลา มาเซียร์

ชื่อวิทยาศาสตร์ Tor putitora

ถิ่นอาศัย ลุ่มแม่น้ำพรหมบุตร

ขนาดเมื่อโตเต็มวัย ประมาณ 275ซม. น้ำหนัก ไม่ระบุ


ที่มา http://writer.dek-d.com/tadsadakorn/story/view.php?id=618504

ความฝัน

ความรู้เรื่องฝัน


คนเรานั้นเมื่อหลับนอนอาจจะมีนิมิต (ฝัน) มาปรากฏในฝันไปในเรื่องต่างๆ อาจจะมีทั้งให้คุณและเกิดโทษจริงบ้างไม่จริงบ้าง อาจจะมีทั้งให้คุณและเกิดโทษจริงบ้างไม่จริงบ้าง นิมิตบอกโชคลาภบ้าง บอกลางร้ายให้รู้ล่วงหน้าก็มี
 
ต้นเหตุของความฝัน(เพราะเหตุใดคนเราถึงฝัน) 4 ประการ

1. บุรพนิมิต ความฝันเกิดจากเรื่องราวในอดีตมาปรากฏให้คนนั้นฝันไป มักเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงมาปรากฏบอกลางหรือโชคลาภ


2. จิตนิวรณ์ ความฝันเกิดเพราะมีอารมณ์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความฝันอย่างนี้เป็นเพราะอารมณ์จิตใจของผู้ฝันได้ ผูกพันกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างมากตลอดเวลา เมื่อหลับไปก็เกิดความฝันในสิ่งนั้น ในเรื่องนั้น ที่ผู้ฝันฝักใฝ่อยู่ หรือได้ พบเห็นแล้วจดจำโดยไม่มีวันลืม


3. เทพสังหรณ์ ความฝันเกิด ขึ้นเพราะเทวดาบันดาล ความฝันเช่นนี้เป็นเพราะเทวดาผู้ปกปักรักษาคุ้มครองธรรมะ ได้ดลบันดาลให้ผู้ฝันเกิดความฝันไป เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้าย เรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือน ผู้ฝันให้ระวังภัยและป้องกัน


4. ธาตุโขภะ ความฝันเกิดเพราะกินมาก นอนมาก จนท้องไส้อืด ท้องขึ้นท้องเฟ้อ ธาตุไม่ย่อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำ ให้เวลานอนหลับไม่สนิทจึงฝันไปไร้สาระไม่มีมูลความจริง หรือให้ประโยชน์แต่อย่างใด
เวลาที่ฝัน


ฝันเวลากลางวัน


ไม่จำเป็นต้องเชื่อฝันกลางวัน(ความฝันที่นิยมถือเป็นความจริงได้ ต้องฝันเวลากลางคืนไม่มีแสงอาทิตย์) อนึ่ง ลาภ ลาภ เป็นของมีค่าหรือเงินทองที่ได้มาโดยไม่คาดฝัน หรือค้าขายได้กำไรมากมายอย่างไม่นึกฝัน โชค หมายถึง คราวหรือจังหวะ ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของผู้นั้นเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าได้ระมัดระวังตัวดี แล้วก็จะดีได้
ฝันเวลาหัวคํ่า หรือเวลาสองยาม


เป็นฝันที่ไม่อาจเป็นจริงไปได้ เพราะว่าท้องไส้ไม่ปกติ ทำให้ความฝันวุ่น จิตใจวุ่น แต่ถ้าหลับสนิทบางทีก็จริง
ฝันตอนดึก ประมาณ 4 ทุ่ม ถึงตี 2


เป็นความฝันที่จะปรากฏเป็นความจริงขึ้นมา ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน หรือสองเดือนแน่ๆ

ฝันยามใกล้รุ่ง ตอนตี 2 ถึงสว่าง


เป็นความฝันที่จะเกิดขึ้นเป็นความจริงในเวลา 3 วัน หรือไม่เกิน 15 วัน

 
อิทธิพลตัวเลขกับความฝัน


ความฝัน ของคนเราที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต เช่นมนุษย์หรือสัตว์ หรือกับสิ่งของต่างๆ ตามตำราทำนายฝันส่วน มาก ที่ให้ความหมายของสิ่งเหล่านั้นเป็นตัวเลข มักจะมีส่วนใกล้เคียงกันอยู่มาก ซึ่งอาจเกิดจากการสังเกต หรือ พิจารณาเอาจากลักษณะรูปร่าง หรือจุดเด่น หรือลำดับของตัวอักษรของสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาเป็นหลักเกณฑ์ โดย ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์มานานหลายชั่วอายุคนแล้วก็ได้ จึงสามารถให้ความเชื่อถือต่อการทดลองเปรียบเทียบ ในลักษณะที่เรียกว่า ใกล้เคียงหรือมีส่วนตรงกับเป้าหมายได้เป็นส่วนมาก




         http://www.google.com/

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีการเลี้ยงปลาหางนกยูง

เอาล่ะ !! แนะนำตัวกันไปแล้ว ทีนี้ก็มาเริ่มต้นเรื่องกันเลย
ปลาหางนกยูงมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Poecilia reticulata Peters  มีชื่อสามัญว่า Guppy เป็นปลาออกลูกเป็นตัว  และมีถิ่นกำเนิดทางทวีปอเมริกาใต้แถบเวเนซูเอลล่า  หมู่เกาะคาริเบียนของประเทศบาร์บาโดสและในแถบลุ่มน้ำอเมซอน ในธรรมชาติอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด     และน้ำกร่อยที่เป็นแหล่งน้ำนิ่งจนถึงน้ำไหลเรื่อยๆ

โดยปกติ  ปลาตัวผู้มีขนาด 3 -5 เซนติเมตร ตัวเมียมีขนาด 5 -7 เซนติเมตร ปลาหางนกยูงที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม(Fancy guppies)   ซึ่งเป็นปลาที่ได้รับการคัดพันธุ์และปรับปรุงพันธุ์มาจากพันธุ์พื้นเมือง ( Wild guppies) ที่พบแพร่กระจายอยู่ในธรรมชาติ ลักษณะเด่นที่ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่ๆ คือ ลักษณะสีและลวดลายบนลำตัวและลวดลายบนครีบหางและรูปแบบของครีบหาง ซึ่งในการเรียกสายพันธุ์ต่างๆ จะถูกตั้งชื่อตามลักษณะ ดังกล่าว   

ปลาหางนกยูงที่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงกันมาก มีอยู่ 5 สายพันธ์ ได้แก่  cobra. ,tuxedo ,  mosaic , grass , sword tail   พันธ์เหล่านี้ได้มีการปรับปรุงพันธุ์ให้มีลักษณะสวยงาม  หางสีสวย   ครีบหางใหญ่เวลาว่ายจะแพนหาง และที่สำคัญมีลวดลายสีสวยตรงตามสายพันธุ์ 

                          ลักษณะที่ดีของปลาหางนกยูง ( ไว้ใช้กับการเลือกซื้อ และการคัดพันธุ์ )
ลักษณะลำตัว -> มีขนาดใหญ่ หนาสมส่วน ไม่คดงอ
ลักษณะครีบ -> ครีบหางใหญ่ พริ้วหนา แข็งแรงสมบูรณ์ไม่ฉีกขาด ขณะว่ายน้ำพริ้วไม่พับ
สีและลวดลาย -> ถูกต้องตามสายพันธุ์ คมเข้มชัดเจน
ความสมบูรณ์ของลำตัว -> ทรงตัวปกติ ไม่อ้วนผอมจนเกินไป
 
ปลาหางนกยูงชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง  กินได้ทั้งพืชและสัตว์ เช่น ลูกน้ำ ไรแดง (Moina) ไรสีน้ำตาล (Artemaia) หรือหนอนแดง(Chironomus) หรืออาจจะเลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จรูป เมื่อลูกปลาพอที่จะแยกเพศได้ (อายุประมาณ1- 1 1/2 เดือน ) ควรเลี้ยงแยกเพศไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาผสมพันธุ์กันเอง เมื่อปลามีอายุครับ 3 เดือนก็สามารถผสมพันธุ์ได้ 

                                                                การเพาะพันธุ์ปลาหางนกยูง

ในการเพาะพันธุ์ปลาหางนกยูง นอกเหนือจากวิธีการเพาะพันธุ์แล้ว วิธีการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์และการอนุบาลลูกปลานับว่าเป็นปัจจัยที่ล้วนแต่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ซึ่งได้กล่าวถึงปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวต่อไปนี้ คือ การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาหางนกยูง เนื่องจากปลาหางนกยูงจะเจริญถึงวัยเจริญพันธุ์ เมื่อปลามีอายุเพียง 3 เดือนเท่านั้น เมื่อลูกปลาพอที่จะแยกเพศได้ (อายุประมาณ1- 1 1/2 เดือน ) ควรเลี้ยงแยกเพศไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาผสมพันธุ์กันเอง


น้ำที่ใช้เลี้ยง ควรเป็นน้ำสะอาดปราศจากคลอรีน มีความเป็นกรด – ด่าง (pH ) เป็นกลาง
อุณหภูมิน้ำ 25 –29 ? C ควรมีน้ำไหลหมุนเวียนตลอดเวลา  ( เวลาเปลี่ยนน้ำควรตั้งทิ้งไว้ก่อนเป็นเวลา  1 วันหรือมากกว่านั้น  เพื่อให้ออกซิเจนที่อยู่ในอากาศละลายในน้ำ   ถ้าไม่ทำปลาอาจ shock แล้วตายได้ )

การให้อาหารให้วันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนเย็น ส่วนการถ่ายเทน้ำควรจะทำทุกวัน โดยดูดน้ำในตู้ออกวันละประมาณ 1/4  ของปริมาณน้ำในตู้ แล้วเติมน้ำให้เท่าระดับเท่าเดิม

                                                                        การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์

การคัดเลือกปลาเพศผู้และเพศเมียเพื่อทำการผสม ควรเลือกปลาที่มีอายุ 3 เดือนขึ้นไป มีลักษณะลำตัวมีขนาดใหญ่ หนาสมส่วน ไม่คดงอ โคนหางใหญ่ แข็งแรง  ครีบสมบูรณ์ ครีบหางใหญ่ พริ้วหนา แข็งแรงสมบูรณ์ไม่ฉีกขาด รูปร่างได้สัดส่วน แข็งแรง ว่ายน้ำปราดเปรียว มีสีและลวดลายสวยงาม เพศผู้จะมีลักษณะต่างจากเพศเมียตรงที่อวัยวะในการสืบพันธุ์เรียกว่า gonopodium ซึ่งดัดแปลงมาจากครีบก้น ปลาเพศผู้และเพศเมีย ควรมีลักษณะสีและลวดลายที่เหมือนกันหรือคล้ายกันมากที่สุด เพื่อให้ได้ลูกปลาที่ลักษณะไม่แปรปรวนมากในการผสมพันธุ์ หากจำเป็นต้องเก็บลูกปลาที่เพาะไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในครั้งต่อไป ควรหาพ่อแม่ปลาจากแหล่งอื่นมาผสมบ้าง เพื่อป้องกันการผสมเลือดชิด (Inbreeding) ซึ่งเป็นสาเหตุให้ลูกปลารุ่นต่อๆ ไป มีความอ่อนแอ  สีไม่สวยและมีอัตราการรอดต่ำ


                                            รูปแสดงอวัยวะสืบพันธ์ของปลาหางนกยูงตัวเมีย

                                                                      การเลือกซื้อปลา

เมื่อได้ปลามาแล้ว ควรจะมีการปรับอุณหภูมิน้ำเก่ากับน้ำใหม่ให้ใกล้เคียงกัน ก่อนปล่อยปลาลงตู้ ป้องกันปลาช็อคน้ำ โดยลอยถุงปลาที่เพิ่งซื้อมาไว้ในตู้ที่เตรียมน้ำไว้แล้วสัก 15-30 นาที    พร้อมทั้งปรับสภาพน้ำ โดยใส่เกลือทะเลเม็ดใหญ่ๆ ลงไปด้วย (ตู้ขนาด 16 นิ้ว น้ำ 20 ลิตร ใส่เกลือ 1 ช้อนโต๊ะพูนๆ) เนื่องจากปลาหางนกยูงชอบน้ำกร่อย และความหนาแน่นของน้ำที่มีเกลือผสมอยู่ จะช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิดได้    ควรแยกเลี้ยงปลาที่เพิ่งได้มาใหม่ อย่าเพิ่งปล่อยรวมกับปลาเก่าที่เลี้ยงอยู่ เพราะปลาที่คุณได้มาใหม่ อาจนำเชื้อโรคมาติดปลาเก่าที่คุณเลี้ยงอยู่ก่อนก็เป็นได้ครับ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.fisheries.go.th
http://www.bloggang.com